หลักสูตร Whitewater SUP

หลักสูตร Whitewater SUP

หลักสูตร Whitewater SUP: " SUP ADRENALINE RUSH: พิชิตสายน้ำเชี่ยว Class I - II "


ไม่ใช่แค่การสอนพายเรือ แต่คือการสร้าง "Experience" สุดพิเศษ ที่ผู้เรียนจะได้ทั้งทักษะ ความท้าทาย คอนเทนต์สุดปัง และมิตรภาพใหม่ๆ
เหมาะสำหรับ บุคคลทั่วไป อายุ 15 ปี ขึ้นไป ที่ชอบกิจกรรมแอดเวนเจอร์ มองหาประสบการณ์ใหม่ๆ และให้ความสำคัญกับการสร้างคอนเทนต์ลงโซเชียลมีเดีย 
 

โครงสร้างหลักสูตร (1 Day Course: 9:00 - 16:00 น.)

เราจะแบ่งวันออกเป็น 4 ช่วงหลัก เพื่อให้การเรียนรู้ไม่น่าเบื่อและมีไดนามิกตลอดทั้งวัน

ช่วงที่ 1: Onshore Flow (9:00 - 10:00 น.) - ภาคพื้นดิน อุ่นเครื่องให้พร้อม

  • Icebreaking & Vibe Check: เริ่มต้นด้วยการแนะนำตัวแบบชิลๆ ให้ทุกคนได้ทำความรู้จักกัน

  • Gear Up Like a Pro: แนะนำอุปกรณ์ 

    • Board: "นี่คือยานพาหนะคู่ใจของนาย เลือกให้เหมาะแล้วจะโชว์ลีลาได้เต็มที่" 

    • Paddle: "ไม่ใช่แค่ไม้พาย แต่มันคือคันเร่งและพวงมาลัยของนาย" 

    • Safety Gear (The "Look Cool, Stay Safe" Kit):

      • PFD (เสื้อชูชีพ): "ใส่แล้วเท่ แถมตกน้ำก็ไม่จม ตัวช่วยให้เรากล้าเล่นมากขึ้น"

      • Helmet (หมวกกันน็อก): "ปกป้องส่วนที่สำคัญที่สุด เพราะไอเดียเจ๋งๆ อยู่ในนี้"

      • Quick-Release Leash (สายรัดข้อเท้าแบบปลดเร็ว): "ไอเท็มสำคัญของชาว Whitewater ที่จะเซฟชีวิตนายในกระแสน้ำ" (เน้นย้ำความสำคัญของการปลดเร็ว)

  • Dry-Land Drills: สอนท่าพื้นฐานบนบก

    • Stance: ท่ายืนที่ถูกต้อง "Find Your Balance" 

    • Basic Strokes: ท่าพายพื้นฐาน (Forward, Backward/Brake, Sweep Turn) "ซ้อมท่าให้คล่องก่อนลงสนามจริง"

ช่วงที่ 2: Chill Zone (10:00 - 12:00 น.) - ภาคผืนน้ำนิ่ง สร้างความมั่นใจ

  • First Contact: การเอาบอร์ดลงน้ำ การขึ้น-ลงบอร์ดอย่างถูกวิธี 

  • Finding Your Sea Legs: ฝึกการทรงตัวและลุกขึ้นยืนบนบอร์ดในน้ำนิ่ง "ไม่ต้องรีบ ใครล้มก่อนคนนั้นเก๋า!" 

  • Water Drills: ฝึกพายท่าพื้นฐานที่เรียนมาบนบกในน้ำจริงๆ ฝึกการเลี้ยว การเบรก

  • "SUP-stagram" Session: 

ช่วงที่ 3: Refuel & Connect (12:00 - 13:00 น.) - พักเที่ยง เติมพลัง

  • พักรับประทานอาหารกลางวัน 

  • เปิดโอกาสให้ทุกคนได้พูดคุย แชร์รูปที่ถ่ายเมื่อเช้า แลกเปลี่ยน สร้าง Community เล็กๆ

ช่วงที่ 4: Go With The Flow (13:00 - 15:30 น.) - เข้าสู่สนามจริง! ภาคกระแสน้ำ

  • River Reading 101: สอน "ภาษาของแม่น้ำ" 

    • Eddy: "นี่คือที่จอดรถกลางแม่น้ำ เป็นโซนปลอดภัยที่เราจะใช้พักและวางแผน"

    • Current Line: "ถนนเลนด่วนของแม่น้ำ เราจะใช้มันเพื่อไปต่อ"

  • Essential Whitewater Skills:

    • Ferrying: "การข้ามถนน (แม่น้ำ) แบบโปร" - การพายข้ามกระแสน้ำ

    • Eddy Turn: "ท่าเข้าโค้งสุดเท่" - การพายเข้าและออกจาก Eddy

    • Self-Rescue: (สำคัญที่สุด) สอนวิธีรับมือเมื่อตกน้ำในกระแสน้ำไหล การลอยตัวแบบปลอดภัย (Defensive Swimming) และการกลับขึ้นบอร์ดอย่างรวดเร็ว "ล้มอย่างมีสไตล์ และกลับมาได้อย่างปลอดภัย"

  • Mini-Rally: นำทีมผู้เรียนพายลงตามเส้นทาง 7 กม ในกระแสน้ำระดับ Class I-II (ระดับง่าย-ปานกลาง) ที่ปลอดภัยและควบคุมได้ เพื่อให้ทุกคนได้ใช้ทักษะที่เรียนมาทั้งหมด ครูฝึกจะดูแลอย่างใกล้ชิด 

ช่วงที่ 5: Wrap-up & Graduation (15:30 - 16:00 น.) - สรุปและฉลองความสำเร็จ

  • สรุปกิจกรรม ชื่นชมความกล้าและความพยายามของทุกคน

  • "Certificate of Flow" Ceremony: มอบประกาศนียบัตร (แบบ Digital ส่งเข้ามือถือได้ทันที และแบบพิมพ์เท่ๆ)

  • Content Drop: แชร์ลิงก์ Google Drive/Dropbox ที่รวบรวมรูปและวิดีโอทั้งหมดของวันให้ทุกคนดาวน์โหลดไปใช้ได้ทันที

 

แพ็กเกจ:

  1. SOLO RIDER (ลุยเดี่ยว)
    • สำหรับผู้ที่มาคนเดียว
    • ราคา: 2,890 บาท/คน
    • สิ่งที่ได้: คอร์สเต็มวัน, อุปกรณ์ครบชุด, อาหารกลางวันและของว่าง, ประกันอุบัติเหตุ, รูปถ่ายและวิดีโอรวมจากกล้องครูฝึก
  2. RIVER CREW (ยกแก๊ง)
    • สำหรับผู้ที่มาเป็นกลุ่ม 3 คนขึ้นไป
    • ราคาพิเศษ: 2,590 บาท/คน
    • สิ่งที่ได้: เหมือนแพ็กเกจ SOLO RIDER ทุกอย่าง แต่ได้ราคาพิเศษเมื่อมากับเพื่อน
    • จุดขาย: "ชวนเพื่อนมาตี้กันกลางสายน้ำ ยิ่งมาเยอะ ยิ่งมันส์ ยิ่งคุ้ม!"
  3. THE INFLUENCER (จัดเต็มคอนเทนต์)
    • สำหรับกลุ่มส่วนตัว 4 คน ที่ต้องการประสบการณ์และคอนเทนต์ระดับพรีเมียม
    • ราคา: 3,990 บาท/คน
    • สิ่งที่ได้:
      • ทุกอย่างเหมือนแพ็กเกจ RIVER CREW
      • อัปเกรด: เป็น Private Group ไม่รวมกับใคร
      • อัปเกรด: มีผู้ช่วยครูฝึก 1 คนเพื่อดูแลและ "ถ่ายคอนเทนต์โดยเฉพาะ"
      • อัปเกรด: เพิ่มเซสชั่นถ่ายทำด้วย โดรน (ในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต)
      • อัปเกรด: ได้รับวิดีโอสรุปสั้นๆ (Highlight Reel) ตัดต่อพร้อมใส่เพลง ความยาว 1 นาที สำหรับลง Reels/TikTok ของกลุ่มโดยเฉพาะ

ไม่ใช่แค่พาย SUP เป็น แต่ได้เพื่อนใหม่, ได้ความมั่นใจ, และได้คอนเทนต์ไปลงโซเชียลอีกเป็นเดือน! พร้อมจะ Flow ไปกับเราหรือยัง? หลักสูตรนี้พร้อมจะสร้างประสบการณ์ที่คุณ จะไม่มีวันลืมแน่นอนครับ


ความแตกต่างระหว่าง Whitewater SUP กับ Whitewater Kayak

  • Whitewater SUP: คือการ "เต้นรำอยู่บนสายน้ำ" คุณยืนอยู่เหนือทุกสิ่ง อิสระ และเชื่อมต่อกับธรรมชาติรอบตัวแบบ 360 องศา

  • Whitewater Kayak: คือการ "เป็นส่วนหนึ่งของสายน้ำ" คุณนั่งอยู่ในเรือ หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับกระแสน้ำเพื่อพุ่งทะยานไปข้างหน้า

Whitewater SUP (Stand Up Paddleboard)

ข้อดี (Pros): ทำไมถึงต้องลอง?

  1. มุมมองที่เหนือกว่า (Superior Viewpoint): นี่คือจุดแข็งที่สุด! การยืนทำให้คุณมองเห็นสายน้ำข้างหน้าได้ไกลและชัดเจนกว่ามาก คุณจะเห็นแก่งหิน (Rapids), วังน้ำวน (Eddies) และอุปสรรคต่างๆ ได้ง่ายกว่า ทำให้วางแผนเส้นทางได้ดีขึ้น เหมือนมองจากมุมสูง

  2. อิสระในการเคลื่อนไหว (Freedom of Movement): คุณไม่ถูกจำกัดอยู่ในที่นั่ง อยากจะยืน คุกเข่า หรือนั่งพักบนบอร์ดก็ได้ มันให้ความรู้สึกสบายและไม่อึดอัด ถ้าอากาศร้อนๆ ก็แค่กระโดดลงน้ำแล้วปีนกลับขึ้นมาง่ายๆ

  3. เริ่มต้นง่าย (ในระดับพื้นฐาน): การเรียนรู้ทักษะพื้นฐานบน SUP ในน้ำนิ่งนั้นง่ายและเร็วกว่าคายัคมาก คนส่วนใหญ่สามารถยืนพายได้ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง ทำให้รู้สึกสำเร็จได้เร็ว

  4. ออกกำลังกายเต็มรูปแบบ (Full-Body Workout): การยืนทรงตัวบนบอร์ดที่เคลื่อนไหวตลอดเวลาเป็นการบริหารกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว (Core muscles) ที่ยอดเยี่ยม บวกกับการพายที่ใช้แขน ไหล่ และหลัง ทำให้เป็นการออกกำลังกายทั้งตัว

  5. ความหลากหลายในการใช้งาน (Versatility): บอร์ด SUP หนึ่งอัน สามารถนำไปเล่นในน้ำนิ่ง, พายเล่นชิลๆ, เล่นโยคะบนบอร์ด, หรือแม้กระทั่งโต้คลื่นเล็กๆ ได้ เป็นอุปกรณ์ที่ "One for All"

ข้อเสีย (Cons): เรื่องที่ต้องเจอ

  1. ตกน้ำบ่อยเป็นเรื่องปกติ: คุณต้องยอมรับว่าจะได้ว่ายน้ำบ่อยกว่าคนพายคายัคมาก โดยเฉพาะในช่วงแรกหรือในแก่งที่ยากขึ้น ศูนย์ถ่วงที่สูงทำให้เสียการทรงตัวได้ง่าย

  2. เหนื่อยง่ายกว่า: การปีนกลับขึ้นบอร์ดซ้ำๆ หลังจากตกน้ำ และการเกร็งตัวเพื่อทรงตัวตลอดเวลา จะใช้พลังงานมากกว่าการนั่งพายในคายัค

  3. ความมั่นคงน้อยกว่าในแก่งโหด: ในกระแสน้ำที่เชี่ยวและคลื่นลูกใหญ่ บอร์ด SUP จะควบคุมได้ยากและมีความมั่นคงน้อยกว่าคายัคอย่างเห็นได้ชัด

  4. อุปกรณ์กระจัดกระจายง่าย: เวลาล้ม ไม้พายหรือของที่วางไว้บนบอร์ดอาจลอยหายไปกับกระแสน้ำได้ง่ายกว่า (แม้จะมีสายรัดก็ตาม)

ตารางเปรียบเทียบ Whitewater SUP  - VS -  Whitewater Kayak

คุณสมบัติ Whitewater SUP Whitewater Kayak
มุมมอง สูง, เห็นภาพรวมชัดเจน ต่ำ, อยู่ในระดับสายน้ำ
การเรียนรู้ พื้นฐานง่าย, ทักษะแก่งท้าทาย พื้นฐานท้าทาย (โดยเฉพาะท่าม้วนตัว)
ความรู้สึก/ฟีลลิ่ง อิสระ, เหมือนเล่นเซิร์ฟ, เชื่อมต่อกับธรรมชาติ เป็นส่วนหนึ่งของเรือ, เฉียบคม, ควบคุมได้ดั่งใจ
ความเสถียร น้อยกว่า, ศูนย์ถ่วงสูง สูงมาก, ศูนย์ถ่วงต่ำ
ความปลอดภัย ตกง่ายแต่หลุดจากอุปกรณ์ง่าย ตกยาก แต่ถ้าคว่ำแล้วติดในเรืออาจน่ากลัว
ความเปียก เปียกตลอดเวลา แห้งกว่า (ถ้ามีสเปรย์สเกิร์ต)
เหมาะกับใคร คนชอบความอิสระ, ไม่กลัวตกน้ำ, อยากได้มุมมองใหม่ๆ คนชอบความเร็ว, ต้องการความมั่นคง, อยากลุยแก่งโหดๆ

 

สรุป: แล้วจะเลือกอะไรดี?

เลือก Whitewater SUP ถ้าคุณ...

  • ชอบความรู้สึกอิสระ ไม่ชอบการถูกจำกัดในที่แคบ

  • อยากได้ประสบการณ์ใหม่ๆ และมุมมองที่แตกต่างในการชมธรรมชาติ

  • ไม่กลัวการตกน้ำ และมองว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของความสนุก

  • อยากได้อุปกรณ์ที่ชิ้นเดียวจบ เอาไปเล่นแบบอื่นในวันสบายๆ ได้ด้วย

  • มีพื้นฐานการทรงตัวดี (เช่น เล่นสเก็ตบอร์ด, เซิร์ฟ) จะได้เปรียบ

เลือก Whitewater Kayak ถ้าคุณ...   

  • รักความเร็ว ความท้าทาย และอยากจะผ่านแก่งที่ยากที่สุดไปให้ได้

  • ชอบการเรียนรู้ทักษะที่ลึกซึ้งและเทคนิคเฉพาะทางอย่าง "Eskimo Roll"

  • อยากจะพายในที่ที่อากาศเย็นหรือน้ำเย็น โดยที่ตัวยังแห้งและอบอุ่น

  • ไม่ชอบความรู้สึกของการต้องตกน้ำและปีนกลับขึ้นมาบ่อยๆ

  • วางแผนจะเดินทางไกลในแม่น้ำ (Multi-day trip) ซึ่งคายัคบรรทุกของได้ดีกว่า

ทั้งสองอย่างไม่มีอะไรดีกว่ากันอย่างสมบูรณ์แบบครับ มันขึ้นอยู่กับว่า "คุณมองหาประสบการณ์แบบไหน" ในสายน้ำ ลองถามใจตัวเองดู แล้วเลือกสิ่งที่ใช่ที่สุดสำหรับคุณได้เลย
 

 

แชร์ :